2508
เปิดหลักสูตรวิชาสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ สังกัดคณะรัฐศาสตร์ เริ่มเรียนวันแรกในวันที่ 5 กรกฎาคม 2508 จึงถือเอาวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะนิเทศศาสตร์ โดยมีอาจารย์บำรุงสุข สีหอำไพ เป็นอาจารย์ท่านแรก
2509
มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเป็น “แผนกอิสระสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์” ในวันที่ 11 ตุลาคม 2509 มีฐานะเทียบเท่าคณะ แรกเริ่มเปิดสอนใน 3 สาขาวิชา ได้แก่ การหนังสือพิมพ์ การสื่อสารมวลชน และการประชาสัมพันธ์ โดยมีศาสตราจารย์เกษม อุทยานิน คณบดีคณะรัฐศาสตร์ขณะนั้น เป็นผู้รักษาการหัวหน้าแผนกฯ และอาจารย์บำรุงสุข สีหอำไพ เป็นเลขานุการ แล้วในปี 2513 อาจารย์บำรุงสุขจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแผนกฯ โดยเลือกใช้สีน้ำเงินของน้ำหมึกเป็นสีประจำแผนกฯ และใช้สังข์แตรเป็นเครื่องหมาย
2512
นิสิตรุ่นแรกรับพระราชทานปริญญาบัตร โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ทรงบัญญัติศัพท์ “นิเทศศาสตร์” และ “นิเทศศาสตรบัณฑิต” สำหรับชื่อปริญญาของนิสิตในแผนกฯ และในปีนี้ได้เริ่มเปิดใช้อาคารนิเทศศาสตร์ 1 ซึ่งเป็นอาคารสูง 4 ชั้น (ด้านหน้า) แล้วจึงสร้างส่วนที่เป็นสตูดิโอเพิ่มด้านหลังในปี 2515
2517
มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเป็น “คณะนิเทศศาสตร์” ในวันที่ 19 มีนาคม 2517 เป็นคณะที่ 14 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบไปด้วย 4 ภาควิชา ได้แก่ ภาควิชาการหนังสือพิมพ์ ภาควิชาการสื่อสารมวลชน ภาควิชาการประชาสัมพันธ์ และภาควิชาวาทวิทยาและสื่อสารการแสดง โดยมีอาจารย์บำรุงสุข สีหอำไพ เป็นคณบดีคนแรก และมีพิธีเปิดอาคารนิเทศศาสตร์ 1 ในวันที่ 26 มีนาคม 2517
2519
เปิดสาขาวิชาการภาพยนตร์และภาพนิ่ง ในหลักสูตรปริญญาตรี แยกออกมาจากสาขาวิชาการสื่อสารมวลชนเดิมที่รวมด้านวิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์และภาพนิ่ง โดยอยู่ภายใต้ภาควิชาการสื่อสารมวลชน
2521
เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาโท นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต เป็นครั้งแรก
2522
เปิดสาขาวิชาการโฆษณา ในหลักสูตรปริญญาตรี โดยอยู่ภายใต้ภาควิชาการประชาสัมพันธ์ ทำให้มีการเรียนการสอนใน 7 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาการหนังสือพิมพ์ สาขาการกระจายเสียง สาขาการประชาสัมพันธ์ สาขาการโฆษณา สาขาวาทวิทยา สาขาสื่อสารการแสดง และสาขาการภาพยนตร์และภาพนิ่ง
2524
เปิดใช้อาคารนิเทศศาสตร์ 2 ซึ่งเป็นอาคารสูง 6 ชั้น มีเอกลักษณ์คือบันไดเวียนทรงกระบอกแทนแท่งดินสอ โดยในภายหลัง บริเวณทางเชื่อมและบันไดเวียนถูกรื้อถอนเพื่อสร้างอาคารมงกุฎสมมติวงศ์
2531
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีประกาศจัดตั้งภาควิชาการภาพยนตร์และภาพนิ่ง ในวันที่ 18 สิงหาคม 2531 เป็นภาควิชาที่ 5 ของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2535–2536
มูลนิธินิเทศศาสตร์ ศาสตราจารย์บำรุงสุข สีหอำไพ หรือ “นิเทศศาสตร์บำรุงสุข” ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2535 เพื่อรำลึกถึงอาจารย์ผู้ริเริ่ม บุกเบิก ก่อตั้งคณะนิเทศศาสตร์ขึ้นในประเทศไทยเป็นแห่งแรก ศาสตราจารย์บำรุงสุขเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2535 และถึงแก่กรรมในวันที่ 31 มกราคม 2536 จึงถือเอาวันที่ 31 มกราคม ของทุกปีเป็น “วันบำรุงสุข” เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาและน้อมรำลึกถึงท่าน
2538
ภาควิชาการหนังสือพิมพ์ได้เปลี่ยนชื่อไปเป็น ภาควิชาวารสารสนเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและวิชาการซึ่งเคลื่อนเข้าสู่ความเป็นสังคมเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น
2539
เปิดหลักสูตรระดับปริญญาเอก นิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ เป็นแห่งแรกในประเทศไทย
2547
•
เปิดหลักสูตรภาษาอังกฤษระดับปริญญาตรี นิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการการสื่อสาร (ปรับเป็นหลักสูตรนานาชาติในปี 2555)
•
จัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลเพื่อผู้ประสบภัยสึนามิ เพื่อสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงตรวจสอบการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง อันนำไปสู่การจัดตั้ง media monitor ในประเทศไทยในเวลาต่อมา
2554
•
เปิดใช้งานอาคารหลังใหม่ของคณะฯ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวาระครบรอบ 200 ปี พระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อเฉลิมฉลองการดำเนินงานครบ 40 ปีของคณะนิเทศศาสตร์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานชื่ออาคารว่า “อาคารมงกุฎสมมติวงศ์” และกรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นประธานพิธีเปิดอาคารในวันที่ 26 มีนาคม 2554
•
จัดตั้งศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านสื่อดิจิทัล (CEDM)
•
เปิดหลักสูตรนานาชาติระดับปริญญาโท นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการการสื่อสารเชิงกลยุทธ์
2561
•
จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านความรอบรู้ทางดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อ (DIRU)
•
สาขาวิชาการกระจายเสียงเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาวิชาการออกแบบและผลิตสื่อ
•
สาขาวิชาวารสารสนเทศเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาวิชาวารสารสนเทศและสื่อใหม่
•
สาขาวิชาการโฆษณาเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาวิชาการโฆษณาและการสื่อสารตราสินค้า
•
สาขาวิชาวาทวิทยาเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาวิชาวาทนิเทศ
2564
เริ่มรับนิสิตปริญญาตรีด้วยวิธีการพิจารณาจากแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยเริ่มจากสาขาวิชาวาทนิเทศ และสาขาวิชาการออกแบบและผสิตสื่อ และในปี 2565 เริ่มรับในสาขาวิชาสื่อสารการแสดง และสาขาวิชาการภาพยนตร์และภาพนิ่ง
2566
•
ร่วมมือจัดตั้งบริษัท CU Nitade Xtension เพื่อทำงานร่วมกับคณะฯ ในการพัฒนานิเทศนวัตกรรม การทำงานจริงของนิสิต และเพื่อเป็นแหล่งรายได้ของคณะฯ
•
จัดตั้งศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านนวัตกรรมการสื่อสารเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความยั่งยืน
•
เปิดใช้งาน Immersive Sound Studio นับเป็นสถาบันการศึกษาด้านนิเทศศาสตร์แห่งแรกในประเทศไทยที่มีห้องปฏิบัติการด้านเสียงที่ได้รับมาตรฐาน Dolby Atmos
•
สาขาวิชาการภาพยนตร์และภาพนิ่งเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาวิชาศิลปะภาพยนตร์
2568
•
จัดตั้ง Nitade Academy ตามปรัชญาการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning Education) และเพื่อเป็นหน่วยงานหารายได้ของคณะฯ
•
จัดตั้ง Nitade Studio เพื่อเป็นการบูรณาการการเรียนการสอนและการปฏิบัติจริงของนิสิต



















